วันพุธที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2559

ขนมปังหน้าข้าวโพด-มังสะวิรัติ (Deep fried bread with corn-vegetarian)




แค่ชื่อ ก็อาจทำให้ใครหลายๆ คนสงสัยนะคะว่า เป็นเช่นไร ตัวป้าอิ๋วเขียนเอง จั่วหัวข้อแบบนี้ ก็มีคำถามเหมือนกันค่ะ ว่า คนอ่านจะเข้าใจว่าอย่างไร หรือว่าทำขนมปังที่อบแล้วหน้าเป็นข้าวโพด หรืออย่างอื่น
คำตอบคือ มันมีลักษณะคล้ายขนมปังหน้าหมู แต่เปลี่ยนเป็นข้าวโพดน่ะเองค่ะ ตามสไตล์คนทานมังสะวิรัตินะคะ และรับรองได้ว่า อร่อยจนลืม ขนมปังหน้าหมูที่คุ้นเคยกันเลยทีเดียวค่ะ
 


เครื่องปรุง
ขนมปังสไลด์ ตัดเป็นชิ้นๆพอคำ หรือใหญ่ค่ะ
ข้าวโพด 1 ฝัก ฝานเอาแต่เมล็ด
กระเทียมไทย สับ 2-3 กลีบ
ผักชี และรากผักชี สับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ หรือมากกว่านั้น ตามชอบ
พริกไทยป่น เกลือ เล็กน้อย
แป้งทอดกรอบ 3 ช้อนโต๊ะ และน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ
น้ำมันสำหรับทอด




วิธีปรุง
ผสมเม็ดข้าวโพดกับเครื่องปรุงทั้งหมด คือ กระเทียม ผักชีสับ เกลือ พริกไทย แป้ง คลุกให้เข้ากัน
ปริมาณที่ ที่บอกว่าพอเหมาะน่ะค่ะ ให้ค่อยๆ ใส่ทีละ 1 ช้อนโต๊ะนะคะ แล้วคนดูค่ะ ให้ข้นหนืดค่ะ
แล้วนำส่วนผสมทั้งหมดมาโปะบนขนมปัง
นำไปทอดในน้ำมันร้อนๆ คว่ำหน้าทอดก่อนนะคะ
 
ตักขึ้นสะเด็ดน้ำมันแล้วเสริฟค่ะ
 
 
ทานกับอาจาดนะคะ มี แตงกวา ซอยหอมแดง พริกสด ราดน้ำอาจาด แช่เย็นเจี๊ยบ
 
จริงๆ ทานขนมปังทอดเปล่าๆ ก็อร่อยแล้วค่ะ แต่เพื่อแก้เลี่ยนสำหรับการทานของทอดแบบไทยๆ เรา อาจาดหรือน้ำจิ้ม ทำให้เราทานได้เยอะขึ้นเนอะ หรือใครว่าไงคะ


อร่อย และเป็นมังสะวิรัติด้วยค่ะ ถ้าคนที่ทานเจ ก็งดใส่กระเทียม กับผักชีก็ใช้ได้แล้วค่ะ แต่หากใครจะลดความอ้วน ไม่แนะนำค่ะ เพราะขนมปังจะอมน้ำมันไว้บางส่วนเช่นกัน


เมนูนี้ ต้องทานร้อนๆ ค่ะ เพราะฉะนั้น ทำทานเองที่บ้าน ดีที่สุด สะอาดที่สุด และอร่อยที่สุดค่ะ
พบกันใหม่เมนูถัดไปค่ะ


สงวนลิขสิทธิ์รูปภาพและบทความทั้งหมด  ตามพรบ. ลิขสิทธิ์ปัจจุบันห้ามผู้ใดคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยมิได้รับอนุญาต
หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฏหมาย



เมนูมังสะวิรัติอื่นๆ


sun dried tofu ลาบข้าวโพดม่วง ซอสพิซซ่า มังสะวิรัติ 
ลิงกุยเน่

 

วันเสาร์ที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2559

ฟักทองผัดไข่-เจ/มังสะวิรัติ (Stir fried pumpkin with egg-vegan/vegetarian)


English version



ฟักทองผัดไข่ เป็นเมนูที่เราคนไทยคุ้นเคย และกินกันมาตั้งแต่เด็กๆ นะคะ และป้าอิ๋วเชื่อว่า น้อยคนที่จะไม่เคยกิน สำหรับคนที่ไม่ชอบฟักทองก็คงยกเว้นไป แต่สำหรับชาวมังสะวิรัติที่เคร่งและไม่ทานไข่ด้วย คงอดที่จะได้ทาน เมนูของป้าอิ๋ววันนี้ ทำให้คนที่ชอบมังสะวิรัติและชอบทานฟักทองผัดไข่ ได้ทานกันอร่อยโดยไม่รู้สึกผิดนะคะ
 
 
สิ่งที่ป้าอิ๋วเอามาใช้แทนไข่คือเต้าหู้ค่ะ ป้าอิ๋วใช้เต้าหู้แข็งปกตินี่เองค่ะ แต่บิให้เป็นชิ้นเล็กๆ ด้วยปลายนิ้วให้พอแหลก แล้วนำไปผัดกับฟักทอง ปรุงรสลักษณะเดียวกัน ก็จะได้ฟักทองผัดเต้าหู้ที่แสนอร่อยแล้วล่ะค่ะ
 
 
เครื่องปรุง
  
ฟักทองหั่นชิ้นขนาดประมาณ 1/2 นิ้ว
เต้าหู้แผ่น 1/2 แผ่น
ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
กระเทียมจีนสับ 1 กลีบ (ถ้าเป็นเจ ก็ไม่ต้องใส่ค่ะ)
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำสะอาด 1 ถ้วย


วิธีปรุง
 
เอาน้ำมันพืชใส่กะทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กระเทียมลงผัดให้หอม (ทานเจ ก็ไม่ต้องใส่ค่ะ)
เอาเต้าหู้ที่บิแล้วลงผัด ให้สุกเล็กน้อยก่อน
ใส่ฟักทองลงไป ตามด้วยซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส และน้ำตาล
ใส่น้ำลงในกระทะที่ผัด ปิดฝากะทะ เคี่่ยวจนน้ำเกือบขลุกขลิกเกือบหมด ฟักทองจะสุกนุ่มพอดี
ปิดไฟ ตักเสริฟ
 
 
วันนี้ป้าอิ๋วทานกับข้าวกล้อง 2 สีค่ะ ข้าวกล้องหอมมะลิขาว และข้าวกล้องหอมมะลิแดง
 
 
ทานร้อนๆ อร่อยจังค่ะ
 
 
ใครที่ลดคอเรตเตอรอล เมนูนี้ ทานได้เลยค่ะ
 
 
ขอบคุณที่แวะมา
 
 
พบกันใหม่เมนูถัดไปค่ะ


สงวนลิขสิทธิ์รูปภาพและบทความทั้งหมด  ตามพรบ. ลิขสิทธิ์ปัจจุบันห้ามผู้ใดคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยมิได้รับอนุญาต
หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฏหมาย

อาหารมังสะวัติอื่นๆ

sun dried tofu  ซอสพิซซ่า มังสะวิรัติ 
ขนมปังหน้าข้าวโพด ลิงกุยเน่ไส้อั่วสมุนไพรกรอบ


 




วันศุกร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2559

เต้าหู้แดดเดียว-เจ/มังสวิรัติ (sun dried tofu-vegetarian)

English version

เมื่อป้าอิ๋วเจอเต้าหู้กระดาน เป็นแบบที่ชอบ เพราะมันสด อร่อย ก็อดไม่ได้ที่จะซื้อมาทำอาหารมังสวิรัติที่ชอบ แต่บางครั้งก็ซื้อมามากเกินไปนะคะ ครั้งนี้เลยลองเอามาทำเต้าหู้แดดเดียวดูค่ะ ใช้วิธีการเดียวกันกับทำปลาหรือหมูแดดเดียวนะคะ ตากแดดให้พอแห้ง แดดแรงๆ ก็สามชั่วโมงนี่ใช้ได้เลยค่ะ เก็บใส่กล่องใส่ตู้เย็นไว้นานได้เป็นอาทิตย์เลยนะคะ
 
เมนูนี้ทำเลย ก็เกิดไอเดีย จะเอาไว้เป็นเมนูอาหารเจตอนช่วงทานเจ ทานกับข้าวต้ม อร่อยเริ่ดเลยค่ะ


เครื่องปรุง
 
เต้าหู้กระดาน 200 กรัม
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือ 1/4 ช้อนชา
น้ำตาล 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา


วิธีปรุง
 
ทำน้ำซอสก่อนโดยเอาซีอิ๊วขาว ผสมกับซอสปรุงรส เกลือ น้ำตาลทรายและพริกไทยป่น คนๆ ให้น้ำตาลละลาย
 
 
เอาเต้าหู้ลงไปเคล้าให้น้ำซอสเคลือบทั่วกัน ทิ้งไว้ 10 - 15 นาที

 
เอาเต้าหู้ออกมาใส่ถาด ตากแดดแรงๆ ประมาณ 3 ชั่วโมง
 
เอาน้ำมันใส่กะทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใช้ไฟกลางๆ นะคะ แล้วเอาเต้าหู้ลงทอดจนสุกเหลือง
 
ตักให้สะเด็ดน้ำมัน
 
 
เสริฟค่ะ ทานกับข้าวสวยก็ดีนะคะ มีซอสพริกคู่กัน
 
 
แต่ที่ป้าอิ๋วชอบคือทานกับข้าวต้มค่ะ เข้ากันดีค่ะ
 
 
กินเจคราวหน้า อย่าลืมทำเมนูง่ายๆแบบนี้ทานกันนะคะ
 
ขอบคุณที่แวะมาค่ะ พบกันใหม่เมนูถัดไปค่ะ


สงวนลิขสิทธิ์รูปภาพและบทความทั้งหมด  ตามพรบ. ลิขสิทธิ์ปัจจุบันห้ามผู้ใดคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยมิได้รับอนุญาต
หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฏหมาย



 

วันจันทร์ที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2559

พาสต้าฟาเฟลล่าและซอสมะเขือเทศทูน่า (Farfella with tomato-tuna sauce)

 
 
 
ถึงแม้ว่าหลายๆ บ้านจะขยันทำอาหารทานเองอย่างสม่ำเสมอ แต่ป้าอิ๋วเชื่อเหลือเกินว่า มันต้องมีบ้างที่เราจะขี้เกียจลุกขึ้นมาทำอาหาร และอยู่ในครัวนานๆ อาหารสำเร็จรูปหรืออาหารกระป๋องก็จะตอบโจทย์เราได้ดีเชียวค่ะ
 
และถึงแม้ว่าจะขี้เกียจยังไง คนที่ชอบทำอาหารทานเองก็ไม่ละเลยที่จะบรรจงทำอาหารให้มันดูดีน่าทาน ถึงแม้จะเป็นอาหารกระป๋องก็ตาม ป้าอิ๋วก็เป็นหนึ่งในนั้นค่ะ อดไม่ได้เลยค่ะที่จะเพิ่มโน่น เติมนี่ ยังไงก็ต้องขอประยุกต์ให้มันเป็นอาหารในแบบของเราสักนิ๊ดก็ยังดีค่ะ
 
 
พาสต้าจานนี้ ป้าอิ๋วใช้ซอสแบบมะเขือเทศพื้นฐาน เอามาใส่โน่นนี่ เพิ่มรสชาดในแบบที่เราต้องการ ซึ่งก็ไม่มีแบบแผนนะคะ ทำตามใจตัวเองจริงๆค่ะ
 
 
เครื่องปรุง
 
Farfelle   พอประมาณ
ซอสสปาเก็ตตี้กระป่องแบบซอสมะเขือเทศ 1 กระป๋อง
ทูน่าในน้ำแร่หรือน้ำมัน ½ กระป๋อง (เอาเฉพาะเนื้อ)
น้ำมันมะกอก สำหรับคลุกฟาเฟลล่าเมื่อต้มเสร็จ
พาสลีย์แห้ง หรือ สด
พริกไทยป่น
เกลือเล็กน้อย
พามีซานชีส
 

 
วิธีทำ
 
 
 
ต้ม farfelle ในน้ำเดือด จับเวลา 12 นาทีค่ะ
แล้วเอามาสะเด็ดน้ำ คลุกน้ำมันมะกอกไว้
 
การทำซอส ก็ง่ายมากค่ะ เปิดกระป๋องออกมา เทใส่หม้อเลยค่ะ
เพิ่มน้ำไปอีก ½ ส่วน หรือกะๆ พอให้ขลุกขลิกนะคะ
และใส่ทูน่า ยีให้เป็นชิ้นเล็กๆ ตามชอบ
ชิมรสและปรุงเพิ่มด้วยเกลือและพริกไทยค่ะ ตามชอบ
ใส่พาสลีย์ และปิดไฟ
 
ตักฟาเฟลล่าใส่จาน
 
ราดด้วยซอสทูน่ามะเขือเทศ โรยอีกทีด้วยพริกไทยบดหยาบ พาสลีย์และชีส ถ้ามี แต่ป้าอิ๋วไม่มีชีสโรยค่ะวันนี้
 
อร่อยจนต้องเติมแล้วเติมอีกค่ะ
 
ขอบคุณที่แวะมา แล้วพบกันใหม่ค่ะ


สงวนลิขสิทธิ์รูปภาพและบทความทั้งหมด  ตามพรบ. ลิขสิทธิ์ปัจจุบันห้ามผู้ใดคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยมิได้รับอนุญาต
หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฏหมาย



เมนูพาสต้าอื่นๆ


ลิงกุยเน่ไส้อั่่วสมุนไพรกรอบ 
 
 

 

ลาบข้าวโพดม่วง (Laab spicy corn salad-North East style Thai food)





ลาบ อาหารอีสานที่คุ้นเคย น้อยคนที่ไม่รู้จักและไม่เคยทานนะคะ ป้าอิ๋วทำลาบแบบปกติ ก็เยอะแล้วค่ะ มังสะวิรัติก็มีบ้าง วันนี้ลองมาทำกับข้าวโพดดูบ้างค่ะ เป็นอาหารมังสะวิรัติแบบที่ป้าอิ๋วชอบทานด้วยค่ะ
ข้าวโพดม่วง เป็นพันธุ์ข้าวโพดข้าวเหนียวค่ะ ทานแล้วหนึบๆ มันๆ ดีค่ะ แต่รสหวานน้อยกว่าข้าวโพดหวานแน่นอน ป้าอิ๋วซื้อจากตลาดนัดปลอดสารพิษค่ะ ต้มมาเรียบร้อย 3 ฝัก 20 บาท ราคาเป็นมิตรดีนะคะ ตอนแรกก็ไม่ได้อยากซื้อหรอกค่ะ แต่เห็นไทยมุงเยอะ เลยแวะเข้าไปดู รอบแรกก็ไม่ได้ซื้อค่ะ เพราะไม่ค่อยชอบทานข้าวโพดต้มสักเท่าไร แต่เดินมาอีกรอบ ไม่มีไทยมุงแล้ว เห็นสีแปลกดี เลยซื้อมาลองทานค่ะ เหลือเลยเอามาประยุกต์เป็นลาบซะเลย




มีสาระกับ ผักผลไม้ที่ให้สีม่วงกันนิดหนึงค่ะ เกิดจากสาร anthocyanin ดังนี้ค่ะ
สาร Anthocyanin (แอนโธไซยานิน) เป็นสารที่มีสีตั้งแต่สีน้ำเงินเข้มในสภาพวะเป็นด่าง (pH>7) มีสีม่วงเมื่อเป็นกลาง (pH 7) และจะเปลี่ยนเป็นสีแดงถึงส้มได้ในสภาวะเป็นกรด (pH< 7)
เป็นสารสีที่พบได้ทั่วไปในดอกไม้ ผลไม้บางชนิด ใบหรือลำต้นของพืชบางชนิดที่มีสีจัด ในปริมาณเพียงน้อยนิดก็สามารถแสดงสีได้ในความเข้มสูง
มนุษย์ในบางพื้นที่รู้จักใช้สารตัวนี้มาเป็นเวลานานแล้วในกิจกรรมต่างๆ เช่น ไทยใช้สีจากดอกอัญชันทำขนม จีนใช้สีของเปลือกไม้และใบไม้บางชนิดในการย้อมผ้าให้มีสีต่างๆ ยุโรปใช้ผลไม้ป่า (Wild Berry) ในการทำเครื่องสำอางและทำขนม
แอนโธไซยานิน มีหน้าที่ปกป้องผักและผลไม้จากการทำลายของรังสีอัลตราไวโอเลต พืชที่มีแอนโธไซยานินมักพบสารกลุ่มโพลีฟีนอลด้วย สารกลุ่มนี้มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระและช่วยชะลอสภาวะเสื่อมของเซลล์

อาหารที่มีสีน้ำเงินและสีม่วง ได้แก่ กะหล่ำปลีม่วง มันสีม่วง องุ่นแดง ชมพู่มะเหมี่ยว ชมพู่แดงอื่นๆ ลูกหว้า ลูกไหน ลูกพรุน ลูกเกด ข้าวแดง ข้าวนิล ข้าวเหนียวดำ ถั่วแดงและถั่วดำ มะเขือม่วง หอมแดง หอมหัวใหญ่สีม่วง บลูเบอร์รี่ น้ำดอกอัญชัน น้ำว่านกาบหอย มันต้มสีม่วง และเผือก

 

จริงๆ ก็มีหลายเวปนะคะ ที่เขียนเกี่ยวกับประโยชน์ของสารนี้ สนใจลองสืบค้นหาอ่านกันนะคะ ส่วนอาหารของเรามาดูวิธีการค่ะ ก็เหมือนกับการทำลาบทั่วไปนะแหละค่ะ

 
 
 
 
 
  
เครื่องปรุง

ข้าวโพดม่วงต้มหรือนึ่ง 1/2 ฝักครึ่งค่ะ ปาดเอาแต่เมล็ดค่ะ
ต้นหอมซอย ผักชีซอย ผักชีใบเลื่อยซอย หอมแดงซอย อย่างละ 1 ช้อนโต๊ะ
ข้าวคั่ว 1 ½ ช้อนโต๊ะ
ผักทานเคียง ผักกาดหอมหรือผักสลัด โหรพา สาระแหน่ห์ แตงกวา ถั่วฝักยาว (2 อย่างหลัง วันนี้ป้าอิ๋วไม่มีค่ะ)
 
 
 
 
น้ำลาบ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
 น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
 น้ำปลาถั่ว 2 ช้อนโต๊ะ
 พริกป่น 1-1 1/2 ช้อนชา (ปริมาณตามชอบ)
พริกสดซอย ตามชอบ
น้ำลาบทำให้เยอะกว่าปกติที่ทำลาบอื่น 2 เท่านะคะ เพราะข้าวโพดดูดน้ำยำได้เยอะมาก ใช้น้ำยำปริมาณปกติทำให้จืดค่ะ
 
 
วิธีทำ
ทำน้ำลาบก่อนเลยค่ะ ผสมทุกอย่างให้เข้ากันชิมรสตามชอบเลยค่ะ ปกติน้ำตาลจะไม่ใส่ก็ได้นะคะ แต่ป้าอิ๋วชอบอาหารหวานเล็กน้อย และไม่ใช้ผงชูรส เลยใส่ค่ะ


ใส่ข้าวโพดลงไป คลุกให้เข้ากันค่ะ สังเกตนะคะว่า ข้าวโพดเปลี่ยนเป็นสีม่วงแดงแล้วค่ะ เพราะน้ำมะนาวเป็นกรดไงคะ วิธีนี้ ทำให้กระหล่ำม่วงเปลี่ยนสีได้เช่นเดียวกันค่ะ
ใส่ข้าวคั่ว คลุกอีกครั้ง
ใส่ผักที่ซอยไว้ทั้งหมด คลุกเบาๆ เป็นอันเสร็จ ตักเสริฟค่ะ


ทานเป็นกับข้าว หรือทานเปล่าๆ ก็อร่อยได้เสมอค่ะ เป็นอาหารจานเดียวที่ไม่ยุ่งยากเลย หรือว่ายุ่งตอนซอยผักก็ไม่รู้นะ ถ้าได้ข้าวโพดหวาน คงจะดีกว่านี้ไม่น้อย แต่นี่ข้าวโพดสดใหม่ ก็ให้ความหวานอร่อยในตัวอยู่แล้วค่ะ


เสริฟทานกับผักต่างๆ ที่ชอบ แช่ให้เย็นเจี๊ยบเลยนะคะ




ทานหน้าร้อนแบบนี้ สบายตัวดีจังเลยค่ะ
ใครเคยทานส้มตำข้าวโพดแล้วติดใจ ป้าอิ๋วรับรองได้ว่า ลาบข้าวโพด จะทำให้ติดใจได้อีกแน่ๆ ค่ะ
พบกันใหม่เมนูถัดไปค่ะ 


สงวนลิขสิทธิ์รูปภาพและบทความทั้งหมด  ตามพรบ. ลิขสิทธิ์ปัจจุบันห้ามผู้ใดคัดลอก ทำซ้ำ ดัดแปลง และเผยแพร่ต่อสาธารณชนโดยมิได้รับอนุญาต
หากฝ่าฝืนจะดำเนินการตามกฏหมาย





อาหารมังสะวัติอื่นๆ



sun dried tofu  ซอสพิซซ่า มังสะวิรัติ ขนมปังหน้าข้าวโพด