วันจันทร์ที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2559

ปีกไก่คั่วพริกเกลือ (Stir fried chicken wings with chlli)


หายไปพักหนึง กลับมาพร้อมของอร่อย ให้เพื่อนๆ ชมกันค่ะ อาหารประเภทคั่วพริกเกลือ มีหลายอย่างนะคะ แล้วแต่คนจะชอบ ป้าอิ๋วทำ ทั้งเต้าหู้คั่วพริกเกลือ กุ้งคั่วพริกเกลือมาแล้ว วันนี้อยากกินปีกไก่คั่วพริกเกลือ ลองสูตร คุณแหม่ม บล๊อก narellan ดูบ้างค่ะ



ปีกไก่ ส่วนที่ชอบที่สุดสำหรับทุกคนน่าจะเป็นปีกกลางนะคะ แต่ป้าอิ๋วซื้อปีกไก่มา มีแบบติดปีกบนด้วย เอามาตัดครึ่งแล้ว แต่ยังไม่พอ เลยใช้ปีกบนด้วย ก็อร่อยเหมือนกันค่ะ ล้างแล้วสะเด็ดไว้ให้แห้ง แต่ป้าอิ๋วไม่ใส่พริกสดที่เผ็ดนะคะ เพราะคนกินด้วย ไม่ทานเผ็ดค่ะ แต่ก็ใส่พริกปาปริก้า 3 สีลงไปเพื่อให้ดูคั่วพริกเกลือ เท่านั้นแหละค่ะ


เครื่องปรุง 
(ประยุกต์จากสูตร คุณแหม่ม บล๊อก narellan)

ปีกไก่  18 ชิ้น
กระเทียมจีนสับ  1 ช้อนโต๊ะ
พริกปาปริก้า หั่นเต๋าเล็กๆ หรือสับ 3 ช้อนโต๊ะ (จริงๆ ใส่พริกสดนะคะ)
ต้นหอมซอยละเอียด 2-3 ช้อนโต๊ะ
แป้งทอดกรอบ 2 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่นเล็กน้อย
น้ำมันพืช สำหรับทอด 2 ถ้วย


น้ำซอสปรุงรส

ซีอิ๊วขาว 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส  1 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
เหล้าจีน 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
พริกไทยป่น เล็กน้อย



วิธีปรุง

ปีกไก่ที่ซับแห้งแล้ว โรยเกลือเล็กน้อย แล้วโรยแป้งทอดกรอบ คลุกให้ทั่ว พักไว้
น้ำมันพืชใส่กะทะ ตั้งไฟให้ร้อน ไฟกลางๆ เอาไก่ลงทอดให้สุกเหลือง ทั้ง 2 ด้าน ตักใส่กระดาษซับมันไว้


เทน้ำมันออกจากกระทะเดิม เหลือ 2 ช้อนโต๊ะ  แล้วใส่กระเทียมสับลงไป
ผสมน้ำซอสทั้งหมดในถ้วยก่อนเพื่อความสะดวก (ผสมไว้ก่อนนี้นะคะ) 
แล้วใส่น้ำซอสทั้งหมดลงไปในกะทะ ตามด้วยพริกปาปริก้า



ดูจนซอสงวดไปครึ่งหนึง ก็ใส่่ปีกไก่ลงคลุกเร็วๆ  แล้วปิดไฟ

โรยต้นหอม คลุกอีกครั้ง ตักเสริฟ ทานร้อนๆ


อร่อยได้กับข้าวสวยเนอะ อาหารแบบนี้ 


ชิ้นเดียว ไม่พอแน่นอนค่ะ


วันนี้ป้าอิ๋วกินไป 8 ชิ้น คนเดียวค่ะ 



ซากอารยธรรม

ลองทำทานดูนะคะ อร่อย ง่ายๆ ค่ะ



วันศุกร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2559

หมี่ซั่วผัดไทย และ หมี่ซั่วซี่โครงหมูตุ๋น



ณ ร้านอาหารตามสั่ง “หม่อมถนัดสี”


หลังจากที่หม่อมถนัด (เสียด) สี ญาติห่างๆ ของหม่อมถนัดเสือก… ได้ตกตะกำลำบาก โดนเฉดหัวออกจากท้ายวัง มาเปิดร้านอาหารตามสั่ง ลูกค้าก็แวะเวียนมา ใช้บริการ (อาหาร) อย่างมิได้ขาด ภาพที่เห็นเจนตาสำหรับคนที่ผ่านไปมาแถวนั้น คือภาพหม่อมหัวหงอกกระเซิง หน้ามัน มือถลกผ้าถุง ผัดอาหารอยู่หน้าเตาไฟ อย่างเมามัน….


วันหนึ่ง คุณนายบ๋งบ่ง แห่งบ้านทรายทอง เดินกระเผลก ใส่แว่นตาดำเข้ามาในร้าน หย่อนก้นงามๆ ของหล่อน ลงบนเก้าอี้ ชันเข่าขึ้นข้างหนึง กำลังจะอ้าปากถาม


แต่หม่อมถนัดสี กลับยิงคำถามสวนไปก่อนเลย ตามประสาคนปากไว ใจกล้า หน้าด้าน…


หม่อม: คุณน๋าย คุณนายยยย วันนี้เป็นไรมายะ โทรมเชียว แล้วทำไมเดินกะเผลก ใส่แว่นตาดำมาล่ะจ๊ะ


คุณนาย: เออ…. ไอ้ที่กระเผลกก็นั่งจั่วไพ่ป๊อก นั่งชันเข่าท่านี้มาทั้งคืนน่ะซะ ถามได้ แล้วตาก็ดำโบว๋ ก็ไม่ได้นอนมา 3 วันแล้วเนี่ย เบ้าโตเป็นขนมครกงาดำ ซะขนาดนี้ ขืนไม่ใส่แว่น เดี๋ยวพ่อรูปหล่อที่ทำงาน ที่แอบกิ๊กกัน จะต๊กกะใจ กลับลำกลางคันน่ะซี๊……


หม่อม: อ๋อ เหรอจ๊ะ ปล่อยให้ชีวิตเขาไปดี เป็นสุขๆ ก็ดีเหมือนกันนะคะ คุณนายยยยย….ลูกใคร ใครก็รักเนอะ (เอาแล้วไม๊ล่ะ นังหม่อม ยังไม่ทิ้งนิสัยเดิมๆ อีกนะ)


คุณนาย:เออ นังหม่อม ที่หล่อนเลี้ยงสุนัขไว้ในปากน่ะ ก็ปล่อยๆ ออกมามั่งก็ได้นะ เดี๋ยวอาหารก็ขายไม่ได้หรอก วันนี้มีไรกินมั่งล่ะ หิว หิว…

หม่อม: มีทุกอย่างล่ะจ้า…..ต้มยำสากกะเบือ ยันเรือรบอบชีสแหละจ้า……หรือ คุณนายจะรับเป็น สากกะเบืออบชีส หม่อมก็ทำให้ได้นะจ๊ะ…..


คุณนาย:เอ้า นังหม่อมตกอับนี่ ถ้าตรูสั่ง แล้วมรึงงงงง จะทำให้ได้ไม๊ยะ……..


หม่อม: อ๊ะ ก็ลองสั่งมาสิจ๊ะ จะบริการลอยฟ้า ลงมาเสริฟตรงกลางกระบาลเลยแหละจ้า…..(วอนอีกรอบแล้วนังหม่อมเนี่ย…..)

คุณนาย:เออๆ ไม่อยากต่อปาก มากความกะหล่อนแล้ว เสียรมณ์……… ไปเอามาเลย “แห้งหนึ่ง น้ำหนึ่ง”

หม่อม: เอ่อ คุณนายขา……มันทำได้เยอะ นะคะ ไอ้ที่คุณนายสั่งน่ะ เตี๋ยวแห้งหนึ่ง เตี๋ยวน้ำหนึ่ง ได้ไม๊เคอะ!.......

คุณนาย: เอ๊า นังหม่อมดำดี นี่ นอกจากหล่อนจะดำดูดแล้ว ปัญญาหล่อนยังมืดอีกนะยะ ถ้า เตี๋ยวแห้ง เตี๋ยวน้ำ ชั้นไปสั่งร้านก๋วยเตี๋ยวไม่ดีกว่าเหรอยะ เดี๋ยวจะโดน มิใช่น้อย ไป… ไปทำมาอย่างไว ทานชาตินี้นะ ไม่ใช่ชาติตระการ….

หม่อม: จ๊ะๆ ว่าแต่ คุณนายทานหมดเหรอจ๊ะ ทั้ง 2 อย่างน่ะ รู้ๆ อยู่ว่าอาหารบ้านป้าอิ๋วน่ะ ถ้า 2 ชามน่ะ คนกระเพาะครากกกกก เท่านั้น ที่จะกินได้หมด ฮ่า……(หลอกด่า อีกต่างหาก)

คุณนาย: ไม่ได้ทานคนเดียวหรอก อีหม่อม…..( “แม่สอนไว้เสมอ…….อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือ”……แต่วันนี้ ขอแลกกับอีหม่อมเสียดสีนี่ ขอหยาบคายสักวันเหอะแม่……)

คุณนาย: เดี๋ยวเดี๊ยน จะแวะเอาไปกำนัล หม่อมที่ตำหนักเนินน้ำน่ะ พอดี ยาย้อมผม “ประคำดีหมีควาย” ที่บ้านหมดน่ะ ว่าจะเอาอาหารไปฝาก และก็ประเหลอะ ขอ “ยาย้อมผมประคำดีปลาช่อน” ที่บ้านเธอซะหน่อย ได้ข่าวว่า ของเขาดีจริงๆ ย้อมวันนี้ พรุ่งนี้ร่วง เอ้ย ย้อมแล้วผมดำสลวยเงางาม แถมยังกระชากวัย และลบรอยตีนกา หนุ่มตรึมๆๆ อีกต่างหาก

หม่อม: เอ้า แหม๋ คุณนาย ก็ไม่บอกแต่แรก ตัวหม่อมสีเองน่ะ เพิ่งย้อมไปเมื่อกี้นี้เองค่ะ “ยาย้อมผม ประคำดีแ-ร-ด!!!!! “ จ้า….จะรับไว้พิจารณา ย้อมผมคุณนายสักขวดไม๊จ๊ะ


คุณนาย: เอ่อ…….…คงไม่รับล่ะจ๊ะ แค่เห็นหล่อนใช้ สรรพคุณยาย้อมผม มันซาบซ่านทั่วทุกรูขุมขนของหล่อนแล้ว ชั้นก็ไม่กล้าแล้วล่ะจ๊ะ

หม่อม: รึคุณพี่จะรับ สูตร ประคำดีม้าศึก คึกคักคึกคัก บ้านลุงตฤณ ละจ๊ะ อันนั้นของเขาดีจริงจ๊ะ เห็นแกคึกทุ๊กกกกก วันเลยจ๊ะ

คุณนาย: เอ่อ ไม่ไหวล่ะย่ะ ปูนนี้ จะให้ชั้นคึกไปถึงไหน ปล่อยให้โกตฤณแกคึกของแกไปละกัน…..

หม่อม: แต่ถ้าสังขารมันไม่อำนวย หม่อมขอแนะนำทางเลือกสุดท้ายเลยจ๊ะ สูตรยาย้อมผมประคำดีกบ จำศีล จากลุงไวน์ เลยจ๊ะ รับรองได้ว่า เจ๊ จะตื่นขึ้นมาเดินจงกลม ทุกๆ เช้าเลยเชียว อิอิ

คุณนาย: เอ่อ อันนั้นก็คงไม่รับหรอกจ๊ะ เดี๋ยวฮอร์โมนชั้นหายหด หมดพอดีกัน ไม่เอาย่ะ ไหนได้ยัง “แห้งหนึ่ง น้ำหนึ่ง”

หม่อม: มาแล้วจ้า…..แห้งหนึ่ง น้ำหนึ่ง พึงระวังอ้วน (และอ๊วก!) นะจ๊ะ คุณนายยยยยย จัดไปค่ะ “หมี่ซั่วผัดไทย VS หมี่ซั่วซี่โครงหมูตุ๋น”





เครื่องปรุง



เส้นหมี่ซั่วแบบแห้ง 2 ก้อน


น้ำซอสผัดไทย (น้ำมะขามเปียก เกลือ น้ำตาลปี๊บหรือน้ำอ้อย) 
เต้าหู้แข็งหั่น 4 เหลี่ยม
หอมแดงสับหยาบ
หัวไชโป๊วหวาน สับหยาบ
กุ้งแห้ง
เครื่องปรุงรส : มี น้ำตาล น้ำปลา พริกป่น ถั่วลิสงป่น
ผัก : มี ถั่วงอก ใบกุยช่าย ถ้ามีใบบัวบก หัวปลีด้วย ก็จะอร่อยค่ะ








วิธีปรุง



ทำน้ำซอสผัดไทก่อนเลยค่ะ 3 อย่าง ข้างบน พร้อมน้ำเล็กน้อย สัดส่วนไม่ได้ตวงซะด้วย ใส่ๆ ลงไปชิมรสเปรี้ยวหวานค่ะ

ทอดเต้าหู้และกุ้งแห้ง พักไว้ก่อนค่ะ



ใส่น้ำมันในกะทะเล็กน้อย ใส่หอมแดงลงผัดให้หอม แล้วใส่เต้าหู้กับกุ้งแห้งที่ทอดไว้


ใส่เส้นลงไป พร้อมราดน้ำซอสผัดไท


ใส่ไข่ตรงกลางกะทะจนสุก ผัดเข้าด้วยกัน

ชิมรสตามชอบ ปรุงด้วยพริกป่น ถั่วป่นจะใส่ตอนนี้ก่อนก็ได้ แล้วใส่ถั่วงอก กุยช่ายผัดเล็กน้อยก่อนปิดไฟ


เสริฟ







เครื่องปรุงหมี่ซั่วซี่โครงหมูตุ๋น



เส้นหมี่ซั่วแบบแห้ง 2 ก้อน ลวก


เครื่องพะโล้ 1 ชุด 
ซี่โครงหมู กับกระดูกสันหลังหมูสำหรับต้มซุป
ผักตามชอบ ป้าอิ๋วใช้กระหล่ำปลี และถั่วงอกค่ะ
ตั้งฉ่าย
กระเทียมเจียว
หอมผักชีซอย
เครื่องปรุงรส : มี น้ำตาล น้ำปลา พริกป่น ถั่วลิสงป่น






วิธีปรุง



ทำน้ำซุปไว้ก่อน เคี่ยวกระดูกหมูกับเครื่องยาจีน ใส่เกลือ กระเทียม พริกไทยบุบ เคี่ยวจนได้น้ำซุปหวาน 

ใส่ซี่โครงหมูเคี่ยวจนเปื่อยนุ่ม
ลวกเส้นและผักใส่ชาม โรยด้วยตั้งฉ่าย
ตักน้ำซุปราด 
โปะกระเทียมเจียวและหอมผักชี
ปรุงตามใจชอบเลยค่ะ







คุณนาย: ตรูว์บอกแล้วใช่ไม๊ว่าไม่เอาบะหมี่แห้ง บะหมี่น้ำ หล่อนนี่มันตะแบง จริงๆ แต่ก็เข้าท่าดีนะ แห้งหนึ่ง น้ำหนึ่ง ของอีหม่อมนี่ ถึงแม้หล่อนจะแถกไปข้างๆคู จนเจ็บสีข้าง เดี้ยนก็ฟาดเรียบทั้ง 2 ชามเลย แฮ่ๆ……


คุณนาย: ไอ้หมี่ซี้ซั๊ว เอ้ย หมี่ซั่วนี่ เอามาผัดไทย เข้าท่าเนอะ น้ำซอสมันซอกแซก ชอนไช เข้าในเส้นแล้วอร่อยดีเนอะ อืม …. เอ็งนี้ ถึงจะดำขี้แหร่ แต่ก็ทำอาหารแหล่กล่าย…..อยู่นา……


คุณนาย: เอางี้ดีกว่า เดี๋ยวแวะไปหา ขาไพ่ น้องหนึ่ง ป้าโอ น้องสาว น้องเอิง น้องนัท น้องแอ๋น และก็ คุณแหม่ม ดูดีกว่า ให้ลองทำให้ชิมดูซิว่า แห้งหนึ่ง น้ำหนึ่ง ของพวกท่านๆ เหล่านั้นจะเป็นเช่นไร

คุณนาย: ไปนะ อีหม่อม ประคำดีแร-ดดดดดดดดด

หม่อม: จ้า…..เดินดีๆ นะคะ คุณนาย เดินระวังเหยียบขี้หมานะจ๊ะ เมื่อกี้ หม่อมเพิ่งปล่อยออกมาจากปาก 2-3 ตัว ในปากหม่อม มีเป็นฟาร์มเลยจ้า….ฮ่า…..




ตัวละครทั้งหมดนี้ เป็นการแสดงเพื่อความบันเทิงค่ะ ไม่ได้มีเจตนาว่ากล่าวให้ใครระคายเคือง บุคคลทั้งหมดที่เอ่ยอ้าง ถูกพิจารณาแล้วว่าเป็นเพื่อนที่สนิทกัน หยอกล้อกันเล่นได้ตามประสาเพื่อน โดยไม่ถือสาหาความ หากท่านใดไม่พอใจ หม่อม เอ้ย ดิฉันขออถัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยค่ะ…..

สลัดเบอรี่กับพาสต้าฟาเฟลล่าและผัก (berries salad with farfella and vegetable)


โจทย์แม่มดน้อยเจ้าเสน่ห์ เดือนนี้ ป้าโอ แม่มดภาคกลาง แห่งตำหนักเนินน้ำ ได้ออกโจทย์ไว้ ง๊ายยย ง่ายยย ว่าทำอาหารอะไรก็ได้ที่มีผลไม้ 1 อย่าง


แต่ป้าอิ๋วอยากทานหลายอย่างนิ เลยจัดไป 2 อย่าง ตระกูลเบอรี่ค่ะ คือ สตอเบอรี่และมัลเบอรี่ ให้สมกับที่หน้าหนาว เมืองไทยเราก็มีสตอเบอรี่ทานกันค่ะ


จริงๆ ก็กะจะให้มีหลายๆ เบอรี่อยู่หรอกนะ แต่มันผลไม้มาไม่ตรงกันน่ะ และตอนแรกจะเป็นส้มตำผลไม้แล้วเชียว แต่ไม่รู้เป็นไง อยากทานแบบสลัดเลยจัดมาทานกับพาสต้าเลยค่ะ


ขอมีสาระกับข้อมูลเรื่อง ลูกหม่อนหรือเจ้า mulberry กันหน่อยนะคะ


หม่อนเป็นไม้ยืนต้นจำพวกไม้พุ่ม อยู่ในวงศ์ Moraceae genus Morus มีอยู่หลาย ชนิด ที่พบมากมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Morus alba Linn.
ใบ ใช้เป็นอาหารของหนอนไหม และหนอนไหมที่เจริญเติบโตเต็มที่ จะนำโปรตีนในใบหม่อนไปสร้างเป็นโปรตีนผลิตเป็นเส้นไหม
ผลหม่อน มีการพบว่ามีanthocyanins สูง ในผลหม่อนแห้ง มี ไขมัน 63 % กรดอินทรีย์ 27 % แอลกอฮอล์ 1.6 % และพบว่า สารcyanidin – 3-O-?-D-glucopyranoside (C3G ) ที่สกัดจากanthocyanin ในผลหม่อนสามารถต่อต้านอาการขาดเลือดในสมองได้ (Kang et al , 2005 ) ดังนั้นผลหม่อนสามารถรับประทานสด นำไปแปรรูปเป็นน้ำผลหม่อนเข็มข้นหรือพร้อมดื่ม และเป็นวัตถุดิบในการผลิตอาหารต่าง เช่นไอศกรีม แยม แยลลี่ ข้าวเกรียบ ขนมพายลูกหม่อน รวมทั้งการผลิตเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทไวน์



ที่มา : อุไรวรรณ นิลเพ็ชร์ ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร กำแพงแสน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์




ส่วนผสมของสลัด


เส้นพาสต้าตามใจชอบ ป้าอิ๋วใช้ farfella ต้มสุก ปริมาณตามชอบ
ผักที่ชอบ วันนี้มี ผักสลัดคอร์ส สีแดงและสีเขียว เซอลารี่ และเรดดิชค่ะ
ส่วนผลไม้ 2 อย่างคือ สตอเบอรี่และมัลเบอรี่
น้ำสลัด apple cider vinegar
น้ำมันมะกอก extra virgin 4 ช้อนโต๊ะ
น้ำส้ม apple cider 4 ช้อนโต๊ะ
มัสตาร์ด 1 ช้อนชา
ออริกาโนแห้ง (ไม่ใส่ก็ได้) พริกไทยและ เกลือเล็กน้อย



** รสนี้ สำหรับคนชอบทานเปรี้ยวค่ะ หากใครทานไม่เปรี้ยวมาก แนะนำให้ลดน้ำส้มเหลือ 3 ช้อนโต๊ะและเพิ่มน้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะค่ะ ส่วนมัสตาร์ด ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ



วิธีทำ

นำน้ำสลัดมาผสมกัน ป้าอิ๋วชอบผสมกันในขวดค่ะ แบบนี้เลย

เครื่องปรุงครบ ก็ปิดฝาและเขย่าเลยค่ะ จะเชคไป เต้นไป ก็ไม่ว่ากันค่ะ อิอิ ครัวเราเอง




ก็จะได้หน้าตาแบบนี้ค่ะ ถ้าวางทิ้งไว้มันจะแยกชั้น พอจะทานก็ค่อยเขย่าอีกทีน่ะค่ะ



ส่วนผักสลัด ก็จัดลงจานเลยค่ะ มัลเบอรี่บอบบาง โรยไว้ข้างบนนะคะ เวลาจะทานก็ราดน้ำสลัดลงไปก็เรียบร้อย ส่งเข้าปากได้ค่ะ ทานเป็นอาหารสุขภาพ มังสะวิรัติ ไม่มีเนื้อสัตว์ค่ะ




ง่ายๆ ได้สุขภาพกับอาหารบ้านป้าอิ๋วค่ะ


สีสวยน่าทานมากเลยเนอะ (ชมตัวเอง ไม่อายเลยเนอะ อิอิ)


แล้วเดี๋ยวจะแวะไปดูเพื่อนๆ น้องๆ หน่อยค่ะ ว่ามีผลไม้อะไรกันบ้าง


พบกันใหม่เมนูถัดไปจ้า…..

มิเนสโตรเน่กับพาสต้า (minestrone soup with pasta)



เมนูนี้ ป้าอิ๋วทำไว้ตั้งแต่ธันวาคมแล้วค่ะ นึกรู้ว่าต้องมีคนออกโจทย์แบบนี้ เลยทำไว้ซะล่วงหน้าเลย แล้วเอามาลงวาเลนไทม์ซะเลย อาจไม่ได้ตกแต่งอะไรให้มันดูสวย แต่สีเข้ากับธีมที่น้องเอิง แม่มดสาวจากอิตาลี่ ให้เสกอาหารหรือขนมที่เข้ากับเทศกาลแห่งความรักค่ะ


จริงๆ minestrone soup นี่ เคยทานครั้งแรก เพื่อนแซวว่า แกทานแกงส้มฝรั่งเหรอ กร๊ากกกก เออ มันเข้าใจเรียกเนอะ แต่จริงๆ สัณชาติ เขามาจากอิตาลี่เนอะ น้องเอิง


เห็นหลายๆบล็อกรีวิวซุปนี้ก็เฉยๆ ค่ะ ถามว่าชอบทานไม๊ ก็ทานได้นะคะ แต่วันหนึงดูรายการ cook show ของพ่อเจ้าพระคุณทูนหัว Jamie oliver ซึ่งตามสไตล์ผู้ชายทำอาหารเนอะ ง่ายๆ แต่อร่อย แต่ป้าอิ๋วชอบนะคะ ดูเขาทำอาหารแล้วเพลินและมีความสุขกับการทำมากค่ะ และเมนู minestrone soup ของเขา ก็เดินเข้าไปในสวนแล้วเก็บผักต่างๆ ที่ปลูกไว้มาทำค่ะ ก็เลยปิ๊งค่ะว่า วัตถุดิบ มันไม่ตายตัว เหมือนกับแกงเลียงบ้านเราเนอะ


ว่าแล้วก็จัดการเอาถั่วต่างๆ ที่เรามีมาใส่ซะเลย แถมด้วยผักที่เหลือจากการทำสลัด มารวมๆ กัน แต่ขี้เกียจออกไปซื้อมะเขือเทศ ก็ใช้ซอสสปาเก็ตตี้กระป๋อง เอาแบบง่ายๆ กันไปเลยค่ะ มาดู minestrone soup ประยุกต์ (แปลกๆ) ของป้าอิ๋วกันค่ะ



เครื่องปรุง


ซอสพาสต้าแบบมะเขือเทศ 1 กระป๋อง
ผักต่างๆ หั่นลูกเต๋าเล็กๆ วันนี้มี ฟักทองจานบิน ฟักทอง บีทรูด แรดดิส พริกหวาน แครอท อยากใส่อะไรก็ใส่ ขอเป็นผักฝรั่งนะคะ
ถั่วหลายๆ ชนิดต้มสุกนิ่ม ตามชอบ
พาสลีย์แห้ง ตามชอบ
ใบกระวาน 2-3 ใบถ้ามี
พาสต้าชนิดที่ชอบ ต้มสุก ถ้าจะไม่ใส่ก็ได้ แต่ป้าอิ๋วต้องการอิ่มท้องค่ะ


วิธีปรุง


เทซอสกระป๋องลงในกระทะ ตวงน้ำเพิ่ม 3 เท่า เพื่อไว้เคี่ยวผักค่ะ


ใส่ผักลงไปค่ะ จริงๆ ผักต่างๆ ก็จะไม่ได้สีแดงของซุปนะคะ แต่ป้าอิ๋วจงใจใส่บีทรู๊ด เพื่อให้น้ำซุปออกสีแดง เข้ากับธีมวาเลนไทม์ค่ะ


ใส่ใบกระวานและพาสลีย์แห้ง เคียวจนผักนุ่ม ประมาณ ครึ่งชั่วโมงค่ะ จริงๆ ตามสูตร เขาต้องใส่เนื้อเป็นก้อนลงไปเพื่อให้ได้รสชาติน้ำซุปค่ะ แต่ป้าอิ๋วไม่มีค่ะ เอาอารมณ์มังสะวิรัตไปเนอะ….


เสร็จแล้วค่ะ ได้ซุปหน้าตาดี และรสชาติหวานจากผักหลายๆ อย่างค่ะ


เสริฟ ทานเฉย หรือจะทานกับพาสต้าก็ได้นะคะ


ป้าอิ๋วทานกับพาสต้าค่ะ อิ่มอร่อยๆ จนต้องเติมค่ะ


อีกมื้อหนึงก็ใส่ fusili ลงไปต้มด้วยเลยค่ะ ทานได้หลายมื้อ


จบอาหารวันวาเลนไทม์ ของป้าอิ๋วค่ะ ไม่ใช่อาหารหวานแต่ก็มีขนมตบท้ายมื้อวาเลนไทม์ด้วย Japanese soufflé cheesecake (strawberry flavor) ที่ทำไว้นานแล้ว แต่ไม่กล้าออกสื่อ เพราะค่อนข้างแฉะไปน่ะค่ะ แต่ก็อร่อยค่ะ


เดี๋ยวจะตามไปดูของเพื่อนๆนะคะ


เจอกันใหม่เมนูหน้าค่ะ

ปลาจาระเม็ดนึ่งบ๊วย



โจทย์สำหรับแม่มด เดือนนี้ น้องแอ๋นบอกว่า ขอเป็น “อาหารจีน” น่ะค่ะ เพื่อให้เข้ากับเทศกาล ตรุษจีน


งานเข้าแล้วซิป้าอิ๋ว เรามันคนไทยแท้ แต่โบราณ กินข้าวราดแกง มาตลอด โตมาก็กินแต่อาหารอย่างอื่น อาหารจีนทานบ้างแต่ไม่ค่อยชอบ เลยไม่ค่อยได้ศึกษา และทำทานน้อยมาก แต่ก็มีบ้างที่เป็นอาหารที่ท่านพ่อกับหม่อมแม่ชอบทำทาน เราเลยได้ความรู้ไปด้วย เนื่องจากต้องเป็นลูกมือ


ปลาจาระเม็ดนึ่งบ๊วย จัดมาเลยค่ะ ทำทานบ่อย รองลงมาจากนึ่งซีอิ๊วค่ะ ส่วน ปลาจาระเม็ดนึ่งซีอิ๊ว ปลาจาระเม็ดนึ่งมะนาว และปลาจาระเม็ดทอดกระเทียม โอ้…ล้วนแล้วแต่น่าทานทั้งนั้นเลย คิดแล้วอยากทานนั้นเลย แต่วันนี้ ขอจัดการกับเมนูอาหารจีนที่ไม่ค่อยทำบ่อย คือ “ปลาจาระเม็ดนึ่งบ๊วย” นี่ค่ะ ทำอย่างเดียวค่ะ และถ้าขืนทำทานเยอะแบบโต๊ะจีน จัดมาหลายๆ อย่าง คงไม่มีใครช่วยทานแน่ๆ


เครื่องปรุง

ปลาจาระเม็ด 2 ตัวเล็กๆ
ขิงซอย ตามชอบ
บ๊วยเค็ม ยีๆ เอาแต่เนื้อๆ 2 เม็ด
เห็ดหอม ซอย 3 ดอก พร้อมน้ำ 2 ช้อนโต๊ะ
ต้นหอมหั่นท่อน 3 ต้น
เบคอน 2 แผ่น ตัดเป็นชิ้นๆ กลางๆ
กระเทียมสับ 3-4 กลีบ
พริกไทยเล็กน้อย
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
น้ำมันงา เหล้าจีน อย่างละเล็กน้อย
พริกสดหั่นแฉลบ






วิธีทำ

เตรียมน้ำซุป โดยใช้ บ๊วย น้ำมันงา เหล้าจีน น้ำตาลทราย กระเทียมสับ เบคอน น้ำแช่เห็ดหอม พริกไทยป่น ผสมรวมกัน ชอบน้ำเยอะๆ ให้เติมน้ำเปล่า หรือน้ำซุป 2-3 ช้อนโต๊ะ และพักไว้


นำปลาที่ทำความสะอาดแล้ว ไปนึ่งรอบแรกก่อน 5 นาที


ราดด้วยน้ำซุปที่เตรียมไว้ แล้วนำขิงซอย เห็ดหอม โรยที่ตัวปลา โรยอีกทีด้วยต้นหอมผักชี




นึ่งอีกครั้ง 10-15 นาที ตามขนาดตัวปลา


ปิดไฟ ยกลง


เสริฟ อาจโรยต้นหอม พริกแดงหั่นแฉลบอีกครั้ง


ทานกับข้าวร้อนๆ อร่อย ซดน้ำคล่องคอดีเหลือเกิน


เป็นวันที่ป้าอิ๋วทานข้าวอร่อยอีกมื้อหนึงเลยค่ะ


มาเร็ว ไปเร็วค่ะ วันนี้ ไม่ได้โพสเอง แต่ทำดราฟท์ไว้และฝากคนอื่นรีวิวให้ค่ะ เพราะไปต่างจังหวัดอาทิตย์หนึง กลับมาจะรีบมาตอนเม้นต์เพื่อนๆ นะคะ